...กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว กะลาสีเรือคนหนึ่ง มองเห็นเกาะสวยงามอยู่ไกลสุดลูกหูลูกตา แต่เลือนลางด้วยม่านหมอก
...เขาคิดว่าเกาะนั้น ต้องมีสมบัติมากมาย และน่าอยู่อย่างแน่นอน จึงออกแรงพาย ออกจากเกาะเดิมที่เขาอาศัยอยู่มานานหลายปี แม้ผู้คนจะคัดค้านสักเท่าไหร่ เขาก็ไม่ฟังเสียงของใคร
...ระหว่างทางเจอพายุฝนกระหน่ำ ท่ามกลางกระแสลม และฝน รวมทั้งคลื่นทะเล บางครั้งเขาก็คิดท้อใจ ว่าจะพายต่อ หรือกลับไปที่เกาะเดิม แต่ เขาเชื่อว่า เกาะที่เห็นข้างหน้าจะต้องสวยงามอย่างแน่นอน
...เขาออกแรงพาย วันแล้ววันเล่า จนในที่สุด เขาเงยหน้าขึ้นมาอีกที เกาะที่เขามองเห็นนั้น ไม่มีอยู่จริง มันเป็นแค่เงาสะท้อนจากผิวน้ำเท่านั้นเอง
...ขณะนี้เขาหมดแรงเสียแล้ว เขาคิดถึงเกาะเดิมที่เคยอยู่เหลือเกิน ในที่สุดกะลาสีเรือผู้นี้ก็ลอยแพ อยู่ท่ามกลางทะเลที่มืดมิด เต็มไปด้วยคลื่นลมกระหน่ำ อย่างไม่ขาดสาย
เขาคงตายในอีกไม่นาน...
...แด่ กะลาสีเรือ ผู้โง่เขลา กว่าเจ้าจะรู้ว่ามาผิดทาง ทุกอย่างก็สายไปเสียแล้ว
ชีวิตของใครหลายคน อาจเป็นเช่นในนิทานเรื่องนี้ รวมถึงชีวิตของผมด้วย
วันอังคารที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2558
วันอาทิตย์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2558
วันเสาร์ที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2558
และแล้วสิ่งที่กลัวก็เป็นจริง
มันไม่แปลกอะไรหรอก ถ้าสิ่งที่เรากลัวมาตลอดเวลา เป็นความจริง
ก็เพราะ มันต้องเป็นแบบนี้อยู่แล้ว เพียงแค่รอเวลา ที่จะเกิดขึ้นเท่านั้น
เมื่อเวลามันมาถึง เราไม่สามารถหยุดอะไรได้อีก
น้ำฝน...
คนที่ผมรัก...
ได้จากไปแล้ว เขาบลอคทุกช่องทางไม่ให้ผมติดต่อได้อีก...
มันเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ที่เธอจะต้องไปทำงานที่ระยอง ซึ่งอยู่ใกล้แฟนเก่าของเธอ
และแฟนเก่า เป็นคนหางาน และที่พักให้...
เมื่อเวลามาถึง ผมก็ถูกกำจัดออกจากเส้นทาง...
ไม่ได้เสียใจ หรือเสียดายอะไร เพราะตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน
เราก็ได้ใช้เวลาอย่างคุ้มค่าที่สุด และทำสิ่งดีๆ ร่วมกัน หลายอย่าง
ความทรงจำที่สวยงาม และประทับใจ
เรื่องราวของเราสองคน จะอยู่ตรงนี้ ตลอดไป
ขอบคุณเวลา ที่หมุนไปอย่างไม่หยุด ทำให้เราสองคน เข้าใจกันมากขึ้น
ขอบคุณโอกาส ที่หยิบยื่นให้แก่กัน เพื่อให้เราได้คบหา และศึกษากัน
ขอบคุณทุกสิ่ง ที่ผ่านเข้ามาทดสอบเรา
แม้สุดท้าย เราจะผ่านมันไปด้วยกันไม่ได้ แต่อย่างน้อย
ตอนนี้...
ผมก็เผลอยิ้ม เมื่อนึกถึง น้ำฝน...
สิ่งที่เหลือไว้มีเพียงรองเท้าหนึ่งคู่ กับภาพวาด และจดหมายอำลา...
ดูเหมือนจะเป็นอะไรที่สั้นๆ แต่มันมีคุณค่ามาก
ก็เพราะ มันต้องเป็นแบบนี้อยู่แล้ว เพียงแค่รอเวลา ที่จะเกิดขึ้นเท่านั้น
เมื่อเวลามันมาถึง เราไม่สามารถหยุดอะไรได้อีก
น้ำฝน...
คนที่ผมรัก...
ได้จากไปแล้ว เขาบลอคทุกช่องทางไม่ให้ผมติดต่อได้อีก...
มันเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ที่เธอจะต้องไปทำงานที่ระยอง ซึ่งอยู่ใกล้แฟนเก่าของเธอ
และแฟนเก่า เป็นคนหางาน และที่พักให้...
เมื่อเวลามาถึง ผมก็ถูกกำจัดออกจากเส้นทาง...
ไม่ได้เสียใจ หรือเสียดายอะไร เพราะตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน
เราก็ได้ใช้เวลาอย่างคุ้มค่าที่สุด และทำสิ่งดีๆ ร่วมกัน หลายอย่าง
ความทรงจำที่สวยงาม และประทับใจ
เรื่องราวของเราสองคน จะอยู่ตรงนี้ ตลอดไป
ขอบคุณเวลา ที่หมุนไปอย่างไม่หยุด ทำให้เราสองคน เข้าใจกันมากขึ้น
ขอบคุณโอกาส ที่หยิบยื่นให้แก่กัน เพื่อให้เราได้คบหา และศึกษากัน
ขอบคุณทุกสิ่ง ที่ผ่านเข้ามาทดสอบเรา
แม้สุดท้าย เราจะผ่านมันไปด้วยกันไม่ได้ แต่อย่างน้อย
ตอนนี้...
ผมก็เผลอยิ้ม เมื่อนึกถึง น้ำฝน...
สิ่งที่เหลือไว้มีเพียงรองเท้าหนึ่งคู่ กับภาพวาด และจดหมายอำลา...
ดูเหมือนจะเป็นอะไรที่สั้นๆ แต่มันมีคุณค่ามาก
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)